15 พ.ย. 2562

เสริมจมูกโอเพ่น vs เสริมจมูก semi-open

อัปเดตเมื่อ 12 มิ.ย. 2565

คำถามที่พบบ่อยมากๆ ว่าควรเสริมจมูกแบบไหนดี จะเสริมโอเพ่น หรือ จะเสริมจมูกแบบ semi-open ดี คำตอบไม่ได้มีอะไรซับซ้อนครับ เป็นอย่างไร ไปดู!!!

อย่าลืมรับชมภาพเคสรีวิวได้ดีที่ >>> รวมภาพรีวิวเคสปกป้องคลินิก

หลายคนคงทราบแล้วว่า การเสริมจมูกมีวิธีการ 3 แบบหลักๆด้วยกัน คือ เสริมจมูกโอเพ่น (open) และ เสริมจมูกแบบปิด (close) เสริมจมูกแบบ semi-open ซึ่งก็มีความแตกต่างกันตรงที่แผลผ่าตัด ด้วยแผลผ่าตัดที่ใช้จะมีการลงแผลสองแบบ 1. marginal incision คือแผลในรูจมูก ตามรูปด้านล่าง และ 2. columella incision (ผมได้พูดถึงเรื่องนี้ในบทความเรื่องแผลผ่าตัดในการทำเสริมจมูก) ลงแผลที่ columella ที่ทำให้ขอบเขตและมุมมองของการผ่าตัดต่างกัน

credit : https://pocketdentistry.com/basic-rhinoplasty/

เสริมจมูกแบบโอเพ่น คือ columella incision + marginal incision ที่ลงแผลทั้ง 2 ข้างของรู จมูก
เสริมจมูกแบบ semi-open คือ marginal incision ที่ลงแผลทั้ง 2 ข้างของรูจมูก
เสริมจมูกแบบปิด คือ marginal incision แต่ลงแผลข้างเดียว

credit : https://www.rhinoplastyarchive.com/articles/open-rhinoplasty

แผลผ่าตัดตรงกลางจมูก (columella insicion) ในเคสโอเพ่น

ที่นี้ที่ผมตั้งชื่อเรื่องเป็น open vs semi-open ก็เพราะ การเปิดแผลสองข้างทั้งสองนี้สามารถที่จะทำให้เห็นโครงสร้างกระดูกอ่อนปลายจมูก และปรับแก้ไขได้ทั้งสองแบบ ที่ไม่ลงรายละเอียดของแบบปิด เลยก็เพราะ การทำแบบปิดนั้น จะไม่เห็นโครงสร้างปลายจมูก เป็นการแหวกและใส่ซิลิโคนไปอย่างเดียว ซึ่งก็มักจะทำให้ทำออกมาไม่ได้ทรงดังที่ต้องการ

โดยสิ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำก่อนที่เราจะลงรายละเอียด การทำแบบเปิดหรือการทำแบบ semi-open เป็นเพียงแค่เทคนิคในการลงแผลผ่าตัด แต่สิ่งที่เราควรจะคำนึงถึงมากกว่าแต่โอเพ่น หรือแบบsemi-open คือ สิ่งที่คุณหมอทำภายในโครงสร้างของจมูก ได้ทำอะไรลงไปบ้าง ในบางครั้งการทำแบบ semi-open ก็สามารถที่จะทำได้หลากหลายเทคนิคได้เช่นกัน ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์แต่ละท่าน ในทางกลับกันผมเห็นในหลายๆที่เลือกการทำแบบ open แต่ก็ยัดซิลิโคนไปเฉยๆ เหมือนการทำแบบปิดก็มี

ข้อแตกต่างระหว่างเสริมจมูกโอเพ่น และเสริมจมูกแบบsemi-open

ที่นี้หลายคนก็คงจะมีข้อสงสัยขึ้นมาแล้วว่า เราควรเลือกทำแบบไหนมากกว่ากัน ผมขอเปรียบเทียบเป็นข้อๆเลยกันนะครับ

1. ราคา

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำศัลยกรรม หลายคนก็คงประเมินจากราคาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเราก็จะเห็นว่า open ราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบ semi-open ค่อนข้างเยอะ โดยประมาณน่าจะ 4-5 เท่าตัว

เหตุผลหลักๆเลยคือ เสริมจมูกแบบโอเพ่น คุณหมอนิยมที่จะทำการผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบ เนื่องจากระยะเวลาการผ่าตัดค่อนข้างนาน (โดยเฉลี่ย 2-4 ชั่วโมง) เหตุผลที่ต้องทำนานกว่ากันไม่ใช่เพราะการมีแผลตรงกลางจมูกเพียงอย่างเดียว การที่เราจะมีลงแผลตรงกลางจมูกเพื่อทำโอเพ่นนั้น ก็ควรที่จะมีเหตุผลรองรับเพียงพอ นั่นหมายถึงว่าถ้าเราจะทำเพียงแค่ใส่ซิลิโคนอย่างเดียว เราก็ไม่จำเป็นต้องทำการเสริมแบบโอเพ่นก็ได้ การที่เราจะโอเพ่นนั่นเนี่ยควรจะต้องมีการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ โดยอาจจะการใช้กระดูกอ่อนจากบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น กระดูกอ่อนที่หู กระดูกซี่โครง หรือ กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก ทำให้การฉีดยาชาเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งการจะดมยาสลบนั้นก็แปลว่าต้องมีแพทย์ดมยาอีกท่านเข้ามาอยู่ในเคสด้วย ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนไปโดยปริยาย

2. SEG

credit : https://www.rhinoplastyarchive.com/articles/asian-rhinoplasty

Septal extension graft หรือการยืดผนังกั้นจมูก ให้จมูกมีความยาวหรือโด่งพุ่งมากขึ้น ซึ่งปลอดภัยมากกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนทั้งแท่ง การจะยืดผนังกั้นจมูกได้นั้น ต้องเลาะเข้าไปลึกพอสมควร เพื่อเข้าไปตัดส่วนผนังกั้นจมูกแล้วย้ายกระดูกอ่อนบริเวณดังกล่าว เย็บติดกับส่วนปลายของผนังกั้นจมูกเดิม (รูปตรงกลาง และรูปด้านขวา การที่ผนังกั้นจมูกถูกตัดแล้วเอามาเย็บไว้ตรงส่วนปลายของผนังกั้นจมูก) แต่ถามว่าจำเป็นต้องทำ open คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ สามารถทำแบบ semi-open ได้เช่นกัน แต่ก็อาจจะทำได้ยากกว่า เนื่องจากขอบเขตการมองเห็นค่อนข้างน้อยกว่ามาก แต่ก็สามารถทำได้นะครับ

3. การตกแต่งปลาย

credit : https://www.researchgate.net/figure/Transdomal-suture-Figure-4-Interdomal-suture_fig3_285629373

ไม่ว่าจะเป็นการเย็บอินเตอร์โดม หรือ อินทราโดม หรือ การเย็บเพื่อลดความโก่งของกระดูกอ่อน เราสามารถที่จะทำได้ในทั้งแบบ open และ semi-open ได้เช่นกัน แต่ก็เช่นเดียวกับข้อ 2 การจะทำแบบ close ก็ทำได้ลำบากกว่าเช่นกัน เนื่องจากมุมมองน้อยกว่า สำหรับใครที่แล้วสงสัยว่าการเย็บนู่นนี่นั่นที่ว่านี้คืออะไรอ่านต่อได้ที่ => เย็บอินเตอร์โดมคืออะไร มีข้อดีอย่างไร เย็บอินเตอร์อย่างเดียวได้หรือไม่

4. การแก้จมูก

ในเคสที่แก้ ในบางกรณีที่พังผืดเยอะ หรือมีประวัติการฉีดสารเหลวต่างๆมา แน่นอนทำได้ทั้งสองวิธีครับ แต่การทำ open ก็สามารถที่จะตัดเลาะออกมาได้ละเอียดกว่านั่นเอง

5. การตอกฐาน

สำหรับการตอกฐานนั้น ทำได้ทั้งสองแบบ ผลไม่แตกต่างกันครับ อีกอย่าง ตอกฐานก็สามารถที่จะทำในลักษณะแผลด้านนอกได้ครับ ยิ่งยืนยันว่าทำได้ไม่แตกต่างกัน

6. จมูกคด

หลายคนมีปัญหาจมูกคดโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่บางคนก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีปัญหาเรื่องจมูกคด บางคนเพียงแค่อุดรูจมูกด้านใดด้านนึงก็ทำให้หายใจได้ลำบาก จึงก็เนื่องมาจากกระดูกอ่อนแกนกลางจมูกคด จนเบียดบังรูจมูกนั่นเอง ในการเสริมจมูกแบบ semi-open นั่น การที่จะทำให้จมูกตรง สำหรับคดที่คดมากๆ ก็เป็นเรื่องที่ยาก ทำออกมาก็อาจจะดูเบี้ยวเล็กน้อย แต่ในการทำจมูกแบบ open ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้แทบจะ 100%

เทคนิคการเสริมจมูกแบบ semi-open

ทีนี้ผมอยากจะอธิบายถึงเทคนิคใหม่ในการการเสริมจมูก semi-open ซึ่งเป็นเทคนิคที่ปกป้องคลินิกเลือกใช้เป็นหลัก โดยผมอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่หวังว่าจะอธิบายโดยละเอียดอีกทีในบทความต่อๆไป ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ เป็นวิธีที่ปลอดภัย สามาราถยืด และ ปรับโครงสร้างกระดูกปลายจมูกได้เช่นเดียวกับแบบเปิด ปรับแต่งรูจมูกให้ชูตั้งขึ้นแบบ เท่ากันมากขึ้น แต่อาจจะแตกต่างกันในเรื่องของการแก้ไขโครงสร้างเล็กน้อย เช่นในกรณีที่จมูกเดิมคดมากๆ เสริมจมูกแบบ semi-open ก็เป็นวิธีการที่อยู่ตรงกลางระหว่างการ เสริมจมูกแบบโอเพ่น และ เสริมจมูกแบบปิดนั่นเอง ข้อดี ข้อเสียก็มีอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น

สรุป

ผมอยากจะกล่าวโดยสรุป เลยครับว่า เทคนิคต่างๆ เราสามารถที่จะทำได้โดย ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากในเคสที่เลือกจะเสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือ เสริมจมูกแบบsemi-open ครับ ทั้งนี้ขึ้นกับความสามารถและความถนัดของแพทย์ในแต่ละท่านมากกว่า แต่ก็อาจจะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ บางประการที่อาจจะทำให้ semi-open ด้อยกว่า open ได้บ้างนะครับ แต่สำหรับผม เทคนิคที่โอเพ่นทำได้ส่วนใหญ่ semi-open ก็สามารถที่จะทำได้เช่นกันครับ